วันที่ 15 ม.ค.68 นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการส่งเสริมการบูรณาการกลไกการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนระดับจังหวัด โดยมีนายชัยวุฒิ ครุฑมาศ พัฒนาการจังหวัดกระบี่ ในฐานะกรรมการและเลขานุการศูนย์ฯ จังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดกระบี่ /อำเภอ เข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมพนมเบญจา ศาลากลางจังหวัดกระบี่ 9/10
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้รับทราบรายงานผลการดำเนินงานขับเคลื่อนการขจัดความยากจนในระดับจังหวัด ปี 2567 ผลการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2567 ระดับอำเภอ รวม 8 อำเภอ ซึ่งได้มีการบูรณาการความร่วมมือการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายจากทุกภาคส่วนตามภารกิจของหน่วยงาน โดยมีจำนวนเป้าหมายจากระบบ TPMAP ปี 2567 จำนวน 10,021 ราย และมีจำนวนเป้าหมาย TPMAP ปี 2567 ที่ต้องดำเนินการช่วยเหลือต่อในปี 2568 จำนวน 18 ราย ในมิติความเป็นอยู่ และมิติรายได้ ส่วนการดำเนินงานการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ปี 2568 ยังอยู่ระหว่างรอการแจ้งข้อมูลเป้าหมายจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แต่ให้ใช้ข้อมูลครัวเรือนเป้าหมายจากระบบ TPMAP ปี 2567 ที่ยังไม่หลุดพ้นมิติความยากจนและต้องช่วยเหลือต่อขับเคลื่อนไปพลางก่อน
นอกจากนี้ที่ประชุมได้รับทราบการดำเนินโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ปี 2568 โดยสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ได้สนับสนุนงบประมาณให้กรมการพัฒนาชุมชนดำเนินโครงการบ้านห่วงใยจากใจ GLO ประจำปี 2568 ซึ่งจังหวัดกระบี่มีเป้าหมายดำเนินการ 1 หลัง สำรอง 2 หลัง ซึ่งสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดกระบี่ได้เสนอไปยังส่วนกลางแล้ว อยู่ระหว่างรอการอนุมัติงบประมาณจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และรับทราบโครงการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาความยากจนเชิงบูรณาการระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย กับมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ระยะที่ 4 ภาคใต้ เป้าหมาย 30 ครัวเรือน ได้ส่งรายชื่อให้กรมการพัฒนาชุมชนแล้วเช่นกัน และในส่วนของโครงการบ้านกาชาดสงเคราะห์ ประจำปี 2568 มีเป้าหมายดำเนินการทั้ง 8 อำเภอ ๆ ละ 1 หลัง งบประมาณหลังละ 200,000 บาท รวมทั้งสิ้น 1,600,000 บาท
นายอังกูร ศีลาเทวากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า การขับเคลื่อนงานการขจัดความยากจนระดับอำเภอถือเป็นแม่ทัพใหญ่ในการปฏิบัติ ส่วนจังหวัดเมื่อรับนโยบายมาแล้วก็ส่งเสริมสนับสนุนให้อำเภอดำเนินการซึ่งมีทีมปฏิบัติการ ทีมพี่เลี้ยงและครือข่ายต่าง ๆ อยู่แล้ว โดยบูรณาการทำงานร่วมกันกับทุกภาคส่วน แม้ว่าบางรายบางครัวเรือนได้รับการช่วยเหลือในปี 2567 ไปแล้ว แต่ถ้ายังไม่พ้นจากความยากจนไม่พ้นทุกข์จริง ก็ต้องลงไปดูแลเพิ่มเติมในปี 2568 ซึ่งการช่วยเหลือมุ่งเน้นให้เกิดความยั่งยืน ให้ช่วยเหลือตัวเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดั่งพระราชดำรัส ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ว่า “เราไม่ควรให้ปลาแก่เขา แต่ควรจะให้เบ็ดตกปลา และสอนให้รู้จักวิธีตกปลาจะดีกว่า” เป็นการช่วยเหลือคนที่ยั่งยืน ดีกว่าการให้เงินให้สิ่งของที่ใช้แล้วก็หมดไป ..//////////
Cr.ส.ปชส.กระบี่ ภาพ/ข่าว
0 ความคิดเห็น