"รักษ์เขากระบี่" ฮึ่ม! นัดชุมนุมใหญ่ 20 ต.ค. ทำเนียบรัฐบาล จี้ "อนุทิน" ตั้งกรรมการชุดใหม่ ยุติระเบิดภูเขา 4 อำเภอ หวั่นทำลายแหล่งน้ำ-ฟอสซิลโลก



"รักษ์เขากระบี่" ฮึ่ม! นัดชุมนุมใหญ่ 20 ต.ค. ทำเนียบรัฐบาล จี้ "อนุทิน" ตั้งกรรมการชุดใหม่ ยุติระเบิดภูเขา 4 อำเภอ หวั่นทำลายแหล่งน้ำ-ฟอสซิลโลก หลัง สส. เมิน!

กลุ่มรักษ์เขากระบี่ ประกาศระดมพลังชาวกระบี่และคนไทยทั่วประเทศ นัดชุมนุมใหญ่ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันที่ 20 ตุลาคม 2568 เพื่อเรียกร้องให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่เพื่อศึกษาข้อเท็จจริงกรณีการระเบิดภูเขาใน 4 อำเภอของจังหวัดกระบี่ หลังการยื่นหนังสือต่อ สส. ในพื้นที่ "ไร้ผล" พร้อมขอให้ยุติการดำเนินการระเบิดภูเขาทั้งหมดไว้ก่อน จนกว่าผลการศึกษาจะแล้วเสร็จ

กลุ่มรักษ์เขากระบี่ ซึ่งเป็นการรวมตัวของภาคชุมชนและภาคธุรกิจเพื่อปกป้องทรัพยากรธรรมชาติของจังหวัดกระบี่ ได้ออกแถลงการณ์ผ่านช่องทางสาธารณะ #ขอคนละ1แชร์ เพื่อให้ข้อเรียกร้องเข้าถึงผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านในเมือง โดยระบุว่า ภายหลังจากการยื่นหนังสือต่อ สส.กระบี่ ทั้ง 2 พรรค "แต่ไร้ผล" จึงจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากคนกระบี่และคนไทยทั่วประเทศเพื่อปกป้องภูเขากระบี่อันมีค่า

การเคลื่อนไหวครั้งสำคัญนี้ จะเป็นการรวมตัวกันเพื่อ "ปกป้องภูเขากระบี่" ในวันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2568 ณ สะพานชมัยมรุเชษ ทำเนียบรัฐบาล โดยมีข้อเรียกร้องหลักคือนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี พิจารณาแต่งตั้งกรรมการเพื่อศึกษาข้อเท็จจริงกรณีการระเบิดภูเขาใน 4 อำเภอของจังหวัดกระบี่ ได้แก่ อำเภอเมือง อำเภอลำทับ อำเภออ่าวลึก และอำเภอปลายพระยา

กลุ่มรักษ์เขากระบี่ ย้ำเหตุผลในการคัดค้านการให้สัมปทานบริษัทเอกชนเพื่อระเบิดภูเขาทำกิจการแร่ที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องหลายปี โดยชี้ว่าภูเขาทั้ง 4 อำเภอเป็น 1. แหล่งธารน้ำใต้ดิน สำคัญสำหรับการเกษตร อุปโภคบริโภค หากระเบิดจะทำลายระบบนิเวศเฉพาะ อาจเป็นเหตุให้เกิดดินทรุด 2. แหล่งฟอสซิลและแหล่งโบราณคดีที่สำคัญของโลก ซึ่งจะกระทบต่อหลักฐานทางวิทยาศาสตร์และประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และ 3. แหล่งท่องเที่ยวถ้ำสำคัญ ที่สร้างรายได้มหาศาลคู่กับการท่องเที่ยวทางทะเล หากมีการจัดการเชื่อมโยงจะช่วยเสริมศักยภาพการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ในปี 2567 เคยมีการดำเนินการตามข้อเรียกร้องมาแล้ว โดยมีคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 143/2567 ลงนามโดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น เพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาว่าภูเขาดังกล่าวเป็นแหล่งน้ำและแหล่งโบราณตาม พ.ร.บ.ทรัพยากรแร่ พ.ศ. 2560 หรือไม่ เพื่อพิจารณาถอดพื้นที่ออกจากแผนแม่บททรัพยากรแร่

อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการชุดดังกล่าวต้องสิ้นสุดลงเนื่องจากนายกรัฐมนตรีพ้นจากตำแหน่ง ทำให้บริษัทสัมปทานเดินหน้าดำเนินการระเบิดภูเขาอย่างต่อเนื่อง

กลุ่มรักษ์เขากระบี่จึงเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี 1. แต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ขึ้นมาดำเนินการตามวัตถุประสงค์เดิม และ 2. ขอให้ยุติการดำเนินการใด ๆ ของหน่วยงานรัฐและบริษัทเอกชนที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติการระเบิดภูเขาเป็นการชั่วคราว จนกว่าผลการศึกษาจะเสร็จสิ้น และหากผลการศึกษายืนยันว่าเป็นแหล่งต้นน้ำและแหล่งโบราณ ให้ดำเนินการถอดพื้นที่ภูเขาออกจากแผนแม่บทแร่ทันที

แถลงการณ์ระบุทิ้งท้ายว่า การดำเนินการดังกล่าวจะเป็นการสร้างบรรทัดฐานในการออกแบบการจัดการทรัพยากรของประเทศ และเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลที่จะบรรลุเป้าหมายการรักษาธรรมชาติและลดคาร์บอนตามที่ได้ประกาศไว้


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น