สำนักงานตำรวจแห่งชาติเตรียมคิกออฟ "โครงการถนนปลอดภัย" ทั่วประเทศในวันที่ 1 มิถุนายน 2568 นี้ โดยมุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการห้ามไม่ให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัย ซึ่งมีโทษปรับสูงสุด 2,000 บาท เพื่อลดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจรบนท้องถนน
พล.ต.ท.นิธิธร จินตกานนท์ ผู้บัญชาการศึกษา ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานเสริมสร้างภาพลักษณ์ตำรวจจราจร ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานริเริ่ม "โครงการถนนปลอดภัย" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมวินัยจราจรและยกระดับความปลอดภัยทางถนนทั่วประเทศ
พล.ต.อ.ไกรบุญฯ ได้เน้นย้ำให้กองบังคับการและตำรวจภูธรจังหวัดทุกพื้นที่ พิจารณาเลือกถนนสายสำคัญ ถนนที่มีการฝ่าฝืนกฎจราจรบ่อยครั้ง ถนนที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นบ่อย หรือถนนที่มีสถานศึกษาตั้งอยู่หลายแห่ง เพื่อเป็นพื้นที่นำร่องในการรณรงค์และบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัดในทุกมิติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการ สวมหมวกนิรภัย 100% สำหรับผู้ขับขี่และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์
กฎหมายที่ต้องรู้
ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก มาตรา 122 กำหนดให้ผู้ขับขี่และคนโดยสารรถจักรยานยนต์ต้องสวมหมวกนิรภัยเพื่อป้องกันอันตราย หากฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และที่สำคัญคือ หากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยในขณะที่มีคนโดยสารรถจักรยานยนต์ที่ไม่ได้สวมหมวกนิรภัยด้วย จะมีโทษปรับเป็น 2 เท่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะเริ่มดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจราจรและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรถหรือการใช้ทางอย่างเข้มงวดบนถนนที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการสัญจรให้แก่ประชาชนทุกคน
เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองและคนที่ท่านรัก โปรดสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่ขับขี่หรือโดยสารรถจักรยานยนต์ เริ่มต้นง่ายๆ ที่ตัวเรา เพื่อถนนที่ปลอดภัยยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน
0 ความคิดเห็น